สนาม: 39 สุขภาพสุทธิ
บทนำ: มันยากนักเหรอที่จะเอ่ยปากใช้ คำว่า แฟน เนี่ย? มันไม่ยากหรอกครับ แต่มันเป็นสไตล์ของผม ผมมี ระยะของตัวเอง ใครจะคิดยังไงกับผม ผมไม่ทราบ แต่ผมรู้สึกว่าคนเราเรียนรู้ตลอดชีวิต ถึงจะแต่งงานแต่การเรียนรู้ก็ยังไม่สิ้นสุด กับจุ๋ยก็คุย แต่ ไม่ได้คุยกันบ่อย เพราะต่างคนต่างมีงานหนักมาก มองเรื่องชีวิตครอบครัวเป็นรูปเป็นร่างหรือยัง? ผมยังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะ ด้วยวัยที่โตมันใกล้ก็ใช่ แต่มันอยู่ที่ความพร้อม ถ้าเมื่อก่อนจะกดดันอายุตัวเองเท่านี้แล้วคนอื่นเขามีลูกกันแล้ว แต่ผมไม่ถูกเร่งแต่ง มองชีวิตที่สมบูรณ์มากกว่า เมื่อก่อนเคยอยากมีลูกทันใช้ อยากเป็นคุณพ่อยังหนุ่ม แต่โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ไปออกรายการ ขอบอก เร็วๆนี้ พอถูกถามถึงจุ๋ย ว่าใช่ แฟน มั้ย เห็นกัปตันเขินจนเอาของยัดใส่ปากเลยเหรอ? ไม่ใช่เขิน เป็นมุกครับ แม่สอนไว้ถ้ากินอะไรอยู่ในปากห้ามพูด งั้นแสดงว่าใช้คำว่า แฟน ได้แล้วสินะ? คำว่าแฟนมีหลายความหมาย ถ้าเป็นผมจะเป็นแฟนกันเราต้องมีเวลาให้มากกว่านี้ ผมยังทำงานเยอะ ยังไม่สามารถไปทำอะไรให้เขาได้อย่างเต็มที่ อย่างแฟน ผมว่าต้องเรียนรู้ ศึกษากันไปเรื่อยๆ ไม่รู้ อนาคตเป็นยังไง ทำวันนี้ให้ดีที่สุด มีมองอนาคต ถ้าเราจะเอาลูกสาวใครมาดูแลเราต้องพร้อมใจ ก็อยากมีครอบครัวแหละ แต่เราก็อยากดูแลพ่อแม่ ให้สบายกว่านี้ก่อน จึงค่อยคิดถึงตัวเรา. ...
สนาม: Wikipedia
บทนำ:เครก เบลลามี่ หัวหอกหงส์แดง ลงทำศึกกับทีมเก่ากุหลาบไฟ หลีกทางให้ศึก ยูโร 2008 รอบคัดเลือก ถึง 2 อาทิตย์ ทำเอาคอลูกหนังเมืองผู้ดีกระสับกระส่ายไม่น้อย แต่เกมฟาดแข้ง พรีเมียร์ชิป อังกฤษ กลับมาคราวนี้ในวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม มีคู่ที่น่าสนใจมาประเคนให้ถึงที่เมื่อ หงส์แดง ลิเวอร์พูล จะเปิดรัง แอนฟิลด์ ต้อนรับ กุหลาบไฟ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในเวลา 21.00น. ลิเวอร์พูล โวลั่นว่ากลับสู่วงโคจรลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้อีกครั้งหนึ่งแล้ว แต่ความพ่ายแพ้ต่อ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส 0-2 ในนัดล่าสุดทำให้พวกเขาต้องกลับไปทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากมี 10 คะแนนจาก 7 นัดรั้งอันดับที่ 10 ของตารางอยู่ในเวลานี้ โดยเป็นการแพ้ไปถึง 3 นัดเข้าให้แล้วมิหนำซ้ำเกมนี้ ลิเวอร์พูล จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เดิร์ก เคาท์ กองหน้าคนสำคัญที่ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าจากการรับใช้ทีมชาติฮอลแลนด์ ทำเอากุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ ออกอาการฉุนกึก ถึงกับเรียกร้องให้มีการจ่ายเงินชดเชยยามนักเตะสะบักสะบอมกลับมา ทำให้คู่หน้าคงหนีไม่พ้น ปีเตอร์ เคร้าช์ จับคู่กับ เคร็ก เบลลามี่ฝั่ง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ลูกทีมของกุนซือ มาร์ค ฮิวจ์ส ฟอร์มไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลยแม้แต่น้อย แม้จะออกสตาร์ท 3 นัดแรกแพ้ไปถึง 2 นัด แต่หลังจากนั้นเร่งเครื่องถีบตัวเองขึ้นมาไม่พ่ายแพ้ 4 นัดติดต่อกัน รวมแล้วชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 2 นัด รั้งอันดับ 9โดยมีหัวหอกสุดอันตรายคือ เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ย์ ที่ซัดไปแล้ว 3 ประตู และ ชาบานี่ นงด้าอย่างไรก็ตามเกมนี้ แบล็คเบิร์น มีปัญหาที่ด่านสุดท้ายเมื่อต้องลุ้นว่า แบร็ด ฟรีเดล นายทวารจอมเก๋าชาวมะกัน จะฟิตกลับมาเฝ้าเสาพบกับทีมเก่าทันหรือไม่ หลังได้รับบาดเจ็บโคนขาหนีบในเกมลีกนัดล่าสุดที่ชนะ วีแกน แอธเลติก เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หากไม่พร้อม เจสัน บราวน์ จะต้องรับหน้าที่แทนที่ผ่านมาการเจอกันของทั้งสองทีมเป็นทางด้าน ลิเวอร์พูล ที่มีสถิติสวยหรูมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อปีที่แล้วเอาชนะได้ทั้งเหย้า-เยือนด้วยสกอร์เดียวกัน 1-0 นัดสุดท้ายในลีกที่พ่ายแพ้ต้องย้อนไปในฤดูกาล 1996-97 เมื่อครั้งนั้นเป็น แบล็คเบิร์น ที่เปิดรัง อีวู้ด ปาร์ค เอาชนะไปขาดลอย 3-0ในเวลา 23.15น. ยังมีเกมอีกหนึ่งคู่ เรดดิ้ง น้องใหม่ฟอร์มแรงในฤดูกาลนี้จะเปิดรัง มาเดจ์สกี้ สเตเดี้ยม ต้อนรับ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี แชมป์เก่า ลูกทีมของ สตีฟ ค็อปเปลล์ โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งตลอด 7 นัดที่ผ่านมามี 13 คะแนนพุ่งขึ้นมารั้งอันดับ 7 ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดในบรรดาทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาด้วยกันสมศักดิ์ศรีแชมป์ เดอะแชมเปี้ยนชิป โดยเฉพาะเล่นในรังยังไม่แพ้ทีมใดขนาด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังต้องบุกมาไล่ตีเสมอแบบหืดจับมาแล้วนัดนี้ ค็อปเปล ไม่มีปัญหาในการจัดทัพนักเตะตัวเก่งยังอยู่กันครบครันทั้ง เควิน ดอยล์ ดาวยิงที่ซัดไปแล้ว 3 ประตู รวมถึง โซล คี เฮือน กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ ที่ผันตัวเองมาเล่นเป็นปีกขวาซึ่งก็ทำผลงานยอดเยี่ยมซัดไปได้แล้ว 2 ประตู รวมถึงห้องเครื่องอย่าง สตีฟ ซิดเวลล์ และ บ็อบบี้ คอนเวย์ส่วน เชลซี ของกุนซือ โฮเซ่ มูรินโญ่ ออกสตาร์ทสู้เมื่อฤดูกาลที่แล้วไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นก็ตามยังนำเป็นจ่าฝูงร่วมกับ แมนฯยู อยู่ในเวลานี้มี 16 คะแนนเท่ากันจาก 7 นัด โดยนัดล่าสุดฟอร์มสะดุดเล็กน้อยเมื่อพลาดท่าเสมอกับ แอสตัน วิลล่า ในรัง สแตมฟอร์ดบริดจ์ ของตนเอง 1-1เกมนี้ เชลซี จะไม่มี มิชาเอล บัลลัค กองกลางกัปตันทีมชาติเยอรมนี ที่ต้องชดเชยโทษแบนเป็นนัดสุดท้าย รวมถึง โจ โคล มิดฟิลด์ร่างจิ๋วที่ยังไม่ฟิตเต็มร้อยหลังเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บหัวเข่า แต่แนวรุกคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบครันทั้ง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา หอกฟอร์มร้อนแรงที่ซัดไปแล้ว 5 ประตู รวมถึง อังเดร เชฟเชนโก้ และ อาร์เยน ร็อบเบนทั้งสองทีมไม่เคยพบกันใน พรีเมียร์ชิป มาก่อน นัดล่าสุดที่เจอกันคือในศึก ลีก คัพ เมื่อฤดูกาล 2003-04 ซึ่ง เชลซี เฉือนชนะไป 1-0 แต่หากเป็นเกมลีก เรดดิ้ง ก็เคยเอาชนะได้แต่ต้องย้อนไปในฤดูกาล 1929-30 เป็นในศึก ดิวิชั่น 2 เดิม โดยกำชัยไปด้วยสกอร์ 3-1
ลิงค์ที่เป็นมิตรเวลาปัจจุบัน:2021-02-28